May 26, 2013

การเปลี่ยนกรองแอร์ยาริส

เปลี่ยนกรองแอร์ได้เอง แบง่าย ๆ ไม่ยาก ซื้อกรองมา ถ้าเป็นของแท้ 0 ราคา อยู่ที่ 450 บาท   แต่ซื้อตามร้านก็ 2-300 บ. พอใช้ได้ แต่ผมซื้ออะไหล่ 0 มาเป็นเอง เพราะคิดค่าแรงแพงไป  กรองแอร์ยาิริส อยู่ในเกะเก็บของด้านคนนั่งโดยสารครับ

ถอดเกะออกโยกซ้ายขวา แล้วบีบ จะมีตัวล็อคนิดเดียว 
หลุดออกมาง่าย ๆ ทั้งเกะ

จะมองเช่นช่องสี่เหลี่ยม มีฝาปิดกรอง แกะฝาออกเห็นกรองสีขาว ออกดำฝุ่น ค่อย ๆ ถอดออก 

เปลี่ยนกรองใหม่ใส่กลับไป ดูว่ากรองปิดรูอากาศไม่มีช่องเปิด อากาศจะไม่รั่ว  

ปิดฝาใส่เกะ ดันโยกซ้าย ๆ ขวาๆ ก็เข้าได้แล้ว 

เสร็จแล้ว

ได้แอร์สะอาด  และหมั่นดูดฝ่นในรถด้วยตรงที่วางเท้า จะทำให้กรองแอร์ใช้ได้นานนาน ครับ

YARIS MAN


May 25, 2013

ไดชาร์จ

ไดชาร์จ  คือ เครื่องปั่นไฟ ขนาดเล็กจะชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เพื่อไว้ใช้เวลา สตาร์ท  ถ้าไดชาร์จทำงานผิดปกติ ไฟไม่ประจุให้แบต ทำให้แบตหมด ได้ 

รถผมมีปัญหา ไดขาร์จหอน  เสียงเหมือนรถ F 1 เลยดังมาก  ค้นหาสาเหตุ ตัวไดโอดขาด ละลายเลย ไปร้านทำได  ให้เขาถอดไดออก มาเช็ค พบว่า ไดโอดละลาย สาเหตุเกิดจากความร้อน   

ครั้งแรกผมคิดว่าลูกปืนได แตก แต่ไม่ใช่ พอถอดออกมาลูกปืนแกนเพลายังดีอยู่    ผมเลยให้ช่างเปลี่ยนลูกปืนไปด้วย   เขาทำดีมาก ล้างทำความสะอาดด้วยเบนซิน พ่นแลคเกอร์เคลือบขดลวด  ผมใช้ไดเก่าทำใหม่ได้อีกนาน   

แต่ ไม่ควรเปลี่ยนได ตามร้านที่ประกอบเหมือนใหม่ ข้อมูลดังนี้

1.ไดที่มากับรถออกห้าง ดีอยู่แล้ว อาการเสียไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งลูก ให้ช่างดูและซ่อมได้ ราคาก็ถูกกว่าซื้อไดใหม่

2.ไดที่ขายตามร้าน ระวังไฟเกิน มีปัญหาเสียเงินฟรี บางทีเป็นรีบิ้ว ซึ่งคุณภาพไม่ดี ราคา 3-4,000 บ.
3. ราคา 0  = 6,000 บาทกว่า ครับ  ถ้าคิดเปลี่ยนใหม่ คิดว่าไม่จำเป็นหาร้านไดดี ๆ ซ่อมดีกว่า

หลังจากที่ผมซ่อมไดโอดแล้วใช้งานได้ปกติ ไฟดีเหมือนเดิม ช่างเขาเทสก่อนใส่กลับ  เสียค่าเปลี่ยนไดโอดและลูกปืนแกน ไป 1,700 บาท  ถูกและดี  

เพื่อเป็นข้อมูลครับ

Y/R MAN...

May 24, 2013

เปลี่ยนยางปัดน้ำฝนกันได้แล้ว

เข้าหน้าฝนแล้ว  ถึงเวลาเปลี่ยนยางปัดกระจก เพราะ 1 ปีที่ผ่านมา ยางปัดน้ำฝนอาจจะเสื่อมเนื่องจาก จอดรถตากแดดกระจกร้อน ๆ ทำให้ยางที่แนบกระจกเสื่อมสภาพ  เวลาฝนตกปัดไม่หมด มีคราบน้ำ ทำให้การมอง ไม่ดี โดยเฉพาะเวลาค่ำคืน หรือบางท่านต้องเดินทางไกลบ่อย ๆ 

ไปซื้อยางปัดแบบเปลี่ยนยางอย่างเดียวเพราะแกนปัดใช้ได้ยาวนาน  ราคา 100 กว่าบาท เองที่บิ๊กซี หรือโลตัส ก็ได้ครับ  เปลี่ยนง่าย ๆ ไม่ยากอย่างที่คิด   ถ้าใครติดขัดวิธีการ POST ถามได้ จะตอบให้เคลียร์เลย

คร๊าบ

YARIS MAN.

May 23, 2013

NEW YARIS 2013 ECO

แนวคิดใหม่ Toyota Yaris 2013 อาจไม่ได้ตั้งใจเป็น Yaris Eco Car





สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวยาริสคลับ หลังจากที่พวกเราได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับ Toyota Yaris Eco Car กันมาพอสมควร พอดีผมได้มาเจอสมาชิกท่านหนึ่ง ได้เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทฤษฏี Toyota Yaris 2013 หรือ All New Yaris คันนี้ไว้ได้น่าสนใจทีเดียว ซึ่งพอได้อ่านดูก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างสมเหตุสมผล และอาจมีความเป็นไปได้สูงว่าจริงๆแล้ว New Yaris 2013 อาจไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นรถ Eco Car ตั้งแต่ต้น เลยขอนำเอามาให้สมาชิกได้อ่านกัน


Cr.@Panuw
อ้างถึง
มี ใครคิดเหมือนกันกับผมมั้ยว่าไอเจ้า All new yaris ตัวนี้อาจจะไม่ใช่เครื่องยนต์รหัส 3NR-FE ขนาด 1.2 ลิตร ขุมพลัง 80 แรงม้า แต่น่าจะเป็น 1NR-FE ขนาด 1.3 ลิตร 98 แรงม้า เพราะ การที่พี่โตเขาสวมชื่อยาริส เท่ากับว่าพี่โตเขาจะตัดสินใจยุติบทบาทรถขนาด B-Segment ในแบบ Hatchback ของค่ายแกเองเลยนะ จนทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าบางทีการตลาดของพี่โตแกอาจจะสื่อกับเจ้ายาริสใหม่ ตัวนี้ว่า นี่คือรถ b-segment แต่ซ่อนความเป็น Eco car เอาไว้ ด้วยการใช้เครื่องยนต์ที่ขนาดไม่เกิน 1.3 ลิตร เพื่อความประหยัด และบางทีพี่โตแกอาจจะไม่ได้มองพวกรถ Eco car ในปัจจุบันเป็นคู่แข่งก็ได้ แต่พี่โตแกอาจจะมองว่าคู่แข่งที่แท้จริงคือพวกรถ B-Segment ในแบบ Hatchback ที่มีในปัจจุบัน เช่น Jazz , Fiesta , Mazda 2 และ chevroret sonic

ดังนั้นผมจึงวิเคราะห์ตามทฤษฏีของผมว่า All New Yaris เรียกว่าเป็นรถ Eco car ได้ไม่เต็มปากเต็มคำ แต่จะเป็นรถขนาด B-Segment ในแบบ Hatchback ที่ซ่อนความเป็น Eco car เอาไว้ และผมคิดว่าน่าจะเคาะราคาในแบบนี้

รุ่น J/MT ราคา 499,000 บ.
รุ่น J/AT ราคา 539,000 บ.
รุ่น E/MT ราคา 564,000 บ.
รุ่น E/AT ราคา 599,000 บ.
รุ่น G/AT ราคา 654,000 บ.

ใน ส่วนตัวผมคิดว่าพี่โต ไม่น่าจะซอยรุ่น S ออกมานะครับ น่าจะจบที่รุ่น G เหมือนในที่เปิดตัวในประเทศจีน โดยจะยัดทุกอย่าง Full option มาในรุ่น G แต่ก็อาจจะตัดอ๊อฟชั่นบางส่วนที่มีใน All New Vios รุ่น S ออกไป (ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศในแบบ Auto,ไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้างและระบบพับเก็บด้วยไฟฟ้า,มาตรวัด Analog แบบสปอร์ต) เพื่อไม่ให้ราคามันสมเหตุสมผลกับคำว่ารถ Eco car ครับ
นี่คือการวิเคราห์ตามหลัก ทฤษฎี ของผมครับ






ส่วนนี่เป็นข้อมูลของเครื่องยนต์ Toyota 1NR-FE Engine ที่ได้มาจาก WIKI

Displacement: 1,329 cc (81.1 cu in)
Bore x Stroke: 72.5 mm × 80.5 mm (2.85 in × 3.17 in)
Max. Output: Euro 4 Version: 74 kW (99 bhp) at 6000 rpm, Euro 5 Verion: 73 kW (98 bhp) at 6000 rpm
Max. Torque: Euro 4 Version: 132 N·m (97.4 lb·ft) at 3800 rpm, Euro 5 Version: 128 N·m (94.4 lb·ft) at 3800 rpm
Compression Ratio: 11.5:1
Valve Mechanism: 16-valve DOHC, Chain Drive (with Dual VVT-i)
Fuel Injection System: EFI
Ignition System: Direct Ignition System
Emission Regulation: Euro 4 (Complies with Euro 5 after optimizations introduced in July 2010)
Engine Service Mass (incl. coolant & oil): 89.5 kg (197 lb)
6200 RPM Red Line




นับเป็นอีกหนึ่งทฤษฏีที่น่าสนใจมากๆ All New Toyota Yaris 2013 คงจะเรียกว่าเป็นรถ Eco Car ได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก แต่อาจยังคงเป็นรถระดับ B-Segment ในแบบ Hatchback 5 ประตู เช่นเดิม เพียงแต่ซ่อนความประหยัดในแบบ Eco Car ไว้ในตัวด้วยเท่านั้นเอง

May 17, 2013

วันก่อนไปซื้อหัวเทียนศูนย์ TOYOTA มาเปลี่ยนเอง

หัวเทียนเบอร์ K16 RU  หัวละ 65 บาท ของแท้  ถอดเปลี่ยนแล้วเสียงเครื่อง จุดระเบิดได้ ใสมาก เร่งขึ้นดีมากกว่าเดิม   หัวเทียนเก่าก็ยังใช้ได้แต่ เขม่าจับเขี้ยว  ไม่อยากล้าง  ไหน ๆ มีของใหม่แล้วก็เปลี่ยนเลย  รถวิ่งดีขึ้นมากจริง  CONFIRM ครับ

อุปกรณ์  1. ซื้อบล๊อกหัวเทียนยาวเบอร์ 16  ราคา 80 บ. 
2. หัวเทียนใหม่ 4 หัว   260 บาท

การถอด

1. ถอดฝาครอบเครื่องออก ใช้ประแจเบอร์ 10 ซื้อร้านทั่วไป ราคาไม่กี่บาท เอาแบบตัว T 
2. ตัว T เบอร์ 10 ถอด คอยล์จุระเบิดออก มีน๊อต 1 ตัว  ค่อย ดึง คอยล์ ขึ้นมา หน้าตาแบบบนี้ ถอดสายไฟ ขยับเบา ๆ ต้องกดล็อคก่อน ถ้าไม่ออกอย่าฝืน ถอดคอยล์อย่างเดียวก็ได้



3.ใส่ประแจบล๊อค มีด้ามติดมาด้วย สวมหัวเทียน จะอยู่ลึกหน่อยครับ   ก่อนหมุน ต้องมีการทำเครื่องหมาย เพื่อการขันแน่น  ผมไม่มีประแจทอร์ค ใช้ปากกาตราม้า เขียน ขีดเป็นเส้นที่โคนประแจและที่ตัวฝาเครื่องว่า  ถ้าหมุนมาให้ขีดตรงกัน การขันแน่น จะเหมือนเดิม  เพราะสำคัญนะครับ  ขันไม่แน่น รั่วได้ 
4. ค่อย ๆ ถอด  หมุนทวนเข็ม  ผมบิดอยู่นานกว่าจะหมุนออก เนื่องจากไม่ได้ถอดมานาน ตึงมาก  หัวแรกที่ถอดซ้ายมือสุด   พอถอดได้แค่รอบเดียว ลองหมุนกลับไปใหม่  จะรู้สึกได้ถึงร่องเกลียว และความตึงมือ จำไว้เวลาต้องขันกลับจะประมาณนี้   แต่ผมทำเครื่องหมายช่วยไว้แล้ว จะไม่พลาดขันแน่น จะตรงของเก่าแน่

5. ถอดหัวเทียนออก  จนหลุดเกลียว  ยกบล๊อคขึ้น หัวเทียนไม่ติดขึ้นมาหรอก ประแจบล๊อก  ไม่มียางหรือแม่เหล็กดูด  ถ้ามีก็ง่ายหัวเทียนติดขึ้นมาเลย  ใช้วิธีเอาคอยล์จุดระเบิดเสียบเบา ๆ แล้วดึงหัวเทียนขึ้นมา ได้ง่าย ๆ เลย

6. สำคัญระหว่างไม่มีหัวเทียนอย่าให้อะไรหล่นไปในช่องนะครับ  ไม่ดีแน่ 

7. ถอดเสร็จก็ใส่หัวเทียนใหม่ จะมีแหวนรอง 1 ตัว ติดมาให้แล้ว ใส่ ใช้บล๊อคขัน ตอนแรกต้องใช้มือหมุนบล็อค หาร่องเกลียวให้เจอก่อน จะรู้เองว่ามันตรงร่อง จะหมุนเข้าได้ง่าย  ถ้าตึงอย่าฝืนเด็ดขาดเดี๋ยวเกลียวเสีย  งานเข้าครับ  อ้อ  ตอนใส่หัวเทียนก็ใช้คอยล์เสียบหัวเทียนใหม่เบา ๆ ค่อย ๆหย่อนลงไปนะครับ 
8. พอเข้าร่องเกลียวของมัน ก็หมุนด้วยมือไปก่อนจนเริ่มตึงมือ ก็ใช้ประแจบล๊อคขันเข้าให้แน่น สุด  จำไ้ว้ตอนถอดเราจำแรงตึงมือได้    และดูที่เครื่องหมาย ที่มาร์คด้วยปากกาตราม้า ให้รอยขีดมาร์คตรงกัน  เสร็จแล้ว 1 หัว

9. ทำที่ละหัวไล่ตามลำดับ ผมทำจากซ้ายไปขวา 

10. ลองติดเครื่องดูและฟังเสียง พริ้วใสของการจุดระเบิด  และอัตราเร่งที่แรงขึ้นครับ

ขอบคุณที่อ่าน  

ัYARIS THAI..