ขอเสนอจุกลมไฟ7สี เช่นสีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว และเจ็ดสีในตัวเดียวกัน จุกไฟทำงานโดยแรงสั่นสะเทือนของล้อขณะขับขี่ และไฟทำงานเฉพาะในที่มือหรือกลางคืน(มีเซนเซอร์แสงในตัว) อย่างสะดุดตาและสวยงาน กันน้ำ กันสนิม
February 20, 2010
จุกลมไฟ7สี(รถวิ่งไฟขึ้น มีเซนเซอร์ในตัว)
ขอเสนอจุกลมไฟ7สี เช่นสีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว และเจ็ดสีในตัวเดียวกัน จุกไฟทำงานโดยแรงสั่นสะเทือนของล้อขณะขับขี่ และไฟทำงานเฉพาะในที่มือหรือกลางคืน(มีเซนเซอร์แสงในตัว) อย่างสะดุดตาและสวยงาน กันน้ำ กันสนิม
February 15, 2010
การพ่วงแบตเตอรี่
พ่วงแบตกับรถอีกคันต้องทำอย่างไร
ที่จริงคำถามเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องง่ายๆ หากคิดกันด้วยวิธีง่ายๆ คือเอาสายพ่วงแบตมา แล้วก็ต่อเข้ากับคันที่แบตยังมีไฟอยู่แล้วก็สตาร์ทรถคันที่แบตหมด จนกว่าจะติด นั่นเป็นอย่างง่าย แต่การจะทำให้ถูกวิธี ไม่ให้เกิดความเสียหายกับทั้งรถคันที่นำแบตมาพ่วง หรือคันที่แบตหมด เรื่องที่ควรจะรู้ไว้ใช่ว่าก็ไม่น่าจะเสียหายจนเกินไป
ในกรณีที่จอดรถและทิ้งไว้โดยที่เครื่องยนต์ไม่ทำงานเป็นเวลานาน แบตเตอรี่จะมีการคลายประจุออก ตามคุณสมบัติของแบตเตอรี่ หรือลืมเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าของรถไว้ทำให้มีไฟไม่เพียงพอในการสตาร์ต หรือไฟหมดหม้อ แล้วต้องการที่จะพ่วงแบตเตอรี่กับรถปกติอีกคัน เพื่อให้รถคันที่ไฟหมดสตาร์ทติดได้ เป็นการแก้ไขเฉพาะหน้าสามารถกระทำได้ โดยนำรถคันปกติที่แบตยังมีไฟอยู่มาจอดคู่กัน โดยจอดให้ด้านแบตเตอรี่ของรถทั้งสองอยู่ใกล้กันมากที่สุดแล้วดับเครื่องยนต์
สิ่งที่ควรระวัง หรือเป็นข้อห้ามก็คือ ห้ามมิให้รถทั้งสองคันสัมผัสหรือแตะกัน ต้องจอดให้มีระยะห่างกันเล็กน้อยปิดสวิตซ์กุญแจ สตาร์ทมาที่ตำแหน่งปิด และปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชิ้น ของรถคันที่มีแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ คือคันที่แบตหมด นำสายพ่วงแบตเตอรี่ที่มีขนาดและความยาวเหมาะสมต่อพ่วงตามลำดับดังนี้
เริ่มจากการต่อ (1) ขั้วบวกคันไฟหมด สายสีแดง -> (2) ขั้วบวกคันมีไฟแล้วจึงต่อ -> (3) ขั้วลบคันมีไฟ สายสีดำ -> (4) แท่นเครื่องส่วนที่เป็นโลหะ / ชิ้นส่วนตัวถังคันไฟหมด ไม่ใช่หนีบเอาตรงขั้วลบของคันที่แบตหมด
ข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่ง การต่อพ่วงจะต้องต่อขั้วบวกเข้ากับขั้วบวก ขั้วลบเข้ากับขั้วลบ การต่อสลับขั้วจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น กล่องควบคุมต่างๆ ไดชาร์จได้รับความเสียหายได้ ให้ต่อพ่วง (1) – (4) และการคีบสายต่อพ่วง ต้องคีบต่อให้แน่นและมั่นคง เพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟ หลังจากคีบสายต่อเสร็จ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้องก่อนที่สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่มีไฟ แล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบเดินเบาประมาณ 3-5 นาที
ตอนนี้สายต่อพ่วงยังคงพ่วงอยู่ ให้สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่มีไฟหมดตามปกติ หากไม่ติดให้เร่งเครื่องยนต์คันที่มีไฟค้างไว้ที่ประมาณ 2,000 รอบต่อนาทีแล้วลองสตาร์ทเครื่องคันที่มีไฟหมดอีกครั้ง
เมื่อสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์คันที่มีไฟหมดได้ ให้ถอดสายพ่วงตามลำดับ (4) -> (3) -> (2) -> (1) โดยการถอด ต้องปลดออกทันที และควรระวังการเกิดประกายไฟบริเวณจุดสัมผัสที่เกิดโดยง่าย คนถอดต้องตั้งใจให้มั่น ปลดออกทันทีอย่ารีรอ อย่าตกใจกับประกายไฟที่เกิดขึ้น
คำแนะนำ เมื่อสามารถสตาร์ทเครื่องติดได้แล้ว ไม่ควรดับเครื่องรถคันที่แบตหมดทันที เนื่องจากไดชาร์จยังไม่สามารถสร้างไฟเพื่อชาร์จประจุให้กับแบตเตอรี่ได้อย่างเต็มที่ควรจะปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไปซักระยะ หรือนำรถออกวิ่งใช้งาน เพื่อให้มีการชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่
การพ่วงแบตรถดูแล้วก็เป็นเรื่องง่ายๆ แต่ควรจำขั้นตอนการพ่วงแบตให้แม่น ไม่เช่นนั้นอาจทำความเสียหายให้กับรถทั้งสองคันได้โดยง่าย
ที่จริงคำถามเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องง่ายๆ หากคิดกันด้วยวิธีง่ายๆ คือเอาสายพ่วงแบตมา แล้วก็ต่อเข้ากับคันที่แบตยังมีไฟอยู่แล้วก็สตาร์ทรถคันที่แบตหมด จนกว่าจะติด นั่นเป็นอย่างง่าย แต่การจะทำให้ถูกวิธี ไม่ให้เกิดความเสียหายกับทั้งรถคันที่นำแบตมาพ่วง หรือคันที่แบตหมด เรื่องที่ควรจะรู้ไว้ใช่ว่าก็ไม่น่าจะเสียหายจนเกินไป
ในกรณีที่จอดรถและทิ้งไว้โดยที่เครื่องยนต์ไม่ทำงานเป็นเวลานาน แบตเตอรี่จะมีการคลายประจุออก ตามคุณสมบัติของแบตเตอรี่ หรือลืมเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าของรถไว้ทำให้มีไฟไม่เพียงพอในการสตาร์ต หรือไฟหมดหม้อ แล้วต้องการที่จะพ่วงแบตเตอรี่กับรถปกติอีกคัน เพื่อให้รถคันที่ไฟหมดสตาร์ทติดได้ เป็นการแก้ไขเฉพาะหน้าสามารถกระทำได้ โดยนำรถคันปกติที่แบตยังมีไฟอยู่มาจอดคู่กัน โดยจอดให้ด้านแบตเตอรี่ของรถทั้งสองอยู่ใกล้กันมากที่สุดแล้วดับเครื่องยนต์
สิ่งที่ควรระวัง หรือเป็นข้อห้ามก็คือ ห้ามมิให้รถทั้งสองคันสัมผัสหรือแตะกัน ต้องจอดให้มีระยะห่างกันเล็กน้อยปิดสวิตซ์กุญแจ สตาร์ทมาที่ตำแหน่งปิด และปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชิ้น ของรถคันที่มีแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ คือคันที่แบตหมด นำสายพ่วงแบตเตอรี่ที่มีขนาดและความยาวเหมาะสมต่อพ่วงตามลำดับดังนี้
เริ่มจากการต่อ (1) ขั้วบวกคันไฟหมด สายสีแดง -> (2) ขั้วบวกคันมีไฟแล้วจึงต่อ -> (3) ขั้วลบคันมีไฟ สายสีดำ -> (4) แท่นเครื่องส่วนที่เป็นโลหะ / ชิ้นส่วนตัวถังคันไฟหมด ไม่ใช่หนีบเอาตรงขั้วลบของคันที่แบตหมด
ข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่ง การต่อพ่วงจะต้องต่อขั้วบวกเข้ากับขั้วบวก ขั้วลบเข้ากับขั้วลบ การต่อสลับขั้วจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น กล่องควบคุมต่างๆ ไดชาร์จได้รับความเสียหายได้ ให้ต่อพ่วง (1) – (4) และการคีบสายต่อพ่วง ต้องคีบต่อให้แน่นและมั่นคง เพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟ หลังจากคีบสายต่อเสร็จ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้องก่อนที่สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่มีไฟ แล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบเดินเบาประมาณ 3-5 นาที
ตอนนี้สายต่อพ่วงยังคงพ่วงอยู่ ให้สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่มีไฟหมดตามปกติ หากไม่ติดให้เร่งเครื่องยนต์คันที่มีไฟค้างไว้ที่ประมาณ 2,000 รอบต่อนาทีแล้วลองสตาร์ทเครื่องคันที่มีไฟหมดอีกครั้ง
เมื่อสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์คันที่มีไฟหมดได้ ให้ถอดสายพ่วงตามลำดับ (4) -> (3) -> (2) -> (1) โดยการถอด ต้องปลดออกทันที และควรระวังการเกิดประกายไฟบริเวณจุดสัมผัสที่เกิดโดยง่าย คนถอดต้องตั้งใจให้มั่น ปลดออกทันทีอย่ารีรอ อย่าตกใจกับประกายไฟที่เกิดขึ้น
คำแนะนำ เมื่อสามารถสตาร์ทเครื่องติดได้แล้ว ไม่ควรดับเครื่องรถคันที่แบตหมดทันที เนื่องจากไดชาร์จยังไม่สามารถสร้างไฟเพื่อชาร์จประจุให้กับแบตเตอรี่ได้อย่างเต็มที่ควรจะปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไปซักระยะ หรือนำรถออกวิ่งใช้งาน เพื่อให้มีการชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่
การพ่วงแบตรถดูแล้วก็เป็นเรื่องง่ายๆ แต่ควรจำขั้นตอนการพ่วงแบตให้แม่น ไม่เช่นนั้นอาจทำความเสียหายให้กับรถทั้งสองคันได้โดยง่าย
February 10, 2010
Honda expands airbag recall worldwide for some models
Honda expands airbag recall worldwide for some models
Honda recall related to airbags is more than half a million worldwide.STORY HIGHLIGHTS
Honda has expanded an airbag recall worldwide to more than half a million vehicles
The global airbag-related recall now covers 514,000 vehicles
Last month, Honda announced a separate recall of 646,000 for power window problems
RELATED TOPICS
Honda Motor Co. Ltd.
Toyota Motor Corporation
Japan
(CNN) -- Honda has expanded an airbag recall worldwide, covering 2001 and 2002 Accord, Civic, Odyssey, CR-V, and selected 2002 Acura TL vehicles, the automaker said.
The recall also includes the Honda Pilot and Acura CL in the United States, and the Honda Inspire, Saber and Lagreat in Japan for the same model years.
On its Web site late Tuesday, Honda said the driver's airbag inflators might expand with too much pressure, which can cause the inflator casing to break and could lead to injury or death.
There have been 12 incidents related to an airbag inflator problem, Honda said.
The original recall was issued in July 2009, and included 2001 and 2002 Accords and Civics, as well as some 2002 model year Acura TL vehicles.
The global recall now covers more than 950,000 vehicles.
Honda said it will notify affected customers by mail and phone with instructions on how to have their vehicles inspected and updated at an authorized dealer.
Last month, Honda announced a separate recall of 646,000 2007 and 2008 Fit, City and Jazz models worldwide, after a fire hazard involving a power window switch resulted in a death in South Africa.
Honda recall related to airbags is more than half a million worldwide.STORY HIGHLIGHTS
Honda has expanded an airbag recall worldwide to more than half a million vehicles
The global airbag-related recall now covers 514,000 vehicles
Last month, Honda announced a separate recall of 646,000 for power window problems
RELATED TOPICS
Honda Motor Co. Ltd.
Toyota Motor Corporation
Japan
(CNN) -- Honda has expanded an airbag recall worldwide, covering 2001 and 2002 Accord, Civic, Odyssey, CR-V, and selected 2002 Acura TL vehicles, the automaker said.
The recall also includes the Honda Pilot and Acura CL in the United States, and the Honda Inspire, Saber and Lagreat in Japan for the same model years.
On its Web site late Tuesday, Honda said the driver's airbag inflators might expand with too much pressure, which can cause the inflator casing to break and could lead to injury or death.
There have been 12 incidents related to an airbag inflator problem, Honda said.
The original recall was issued in July 2009, and included 2001 and 2002 Accords and Civics, as well as some 2002 model year Acura TL vehicles.
The global recall now covers more than 950,000 vehicles.
Honda said it will notify affected customers by mail and phone with instructions on how to have their vehicles inspected and updated at an authorized dealer.
Last month, Honda announced a separate recall of 646,000 2007 and 2008 Fit, City and Jazz models worldwide, after a fire hazard involving a power window switch resulted in a death in South Africa.
Subscribe to:
Posts (Atom)