โตโยต้า พริอุส ไฮบริด ใหม่เปิดราคา 1.3 ล้านบาท 16 พฤศจิกายน 2553 นี้

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว พริอุส ไฮบริด ใหม่  พร้อมแจ้งราคาขายประมาณ 1.3 ล้านบาท
และเตรียมเปิดรับจองอย่่างเป็นทางการ 16 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
สำหรับโตโยต้า พริอุส เจเนเรชั่นที่ 3 จะทำการผลิตที่โรงงานโตโยต้า เกตเวย์ บ้านเราเองครับ โตโยต้า พริอุส ขับเคลื่อนด้วยระบบ Hybrid Synergy Drive โดยใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีนแบบ Atkinson ขนาด 1,800 ซีซี

ทางภาครัฐของบ้านเราก็ใจดี ให้การสนับสนุน ทั้งภาษีสรรพสามิต และภาษีนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญของระบบไฮบริด   การสนับสนุนดังกล่าวเป็นผลดีต่อต้นทุนของการผลิต จึงทำให้ ราคาเปิดที่บ้านเรา อยู่ที่ 1.3 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน และงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โปที่จะถึงนี้  โตโยต้า พริอุส เพิ่งจะนำเข้าไทยอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ แต่เขา จำหน่ายใน 70 ประเทศทั่วโลก มียอดขายสะสมกว่า 2 ล้านคันแล้วครับ
ดู Video Toyota Prius Hybrid งานเปิดตัวนะครับ เมื่อกลางปีที่แล้ว  พริอุส ไฮบริด มีปัญหาหหลายเรื่องเหมือนกัน ที่สำคัญเป็นข่าวไปทั่วโลกก็เรื่องระบบเบรค และ คันเร่ง ค้าง จนเป็นข่าวฟ้องร้อง ดังทั่วอเมริกา
ลองค้นหาข่าวย้อนหลังดูนะครับ

ยาริส ไฮบริด

เคยมีข่าวออกมารอบ หนึ่ง และทางโตโยต้าก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าข่าวการผลิตเวอร์ชัน ไฮบริดของซับคอมแพ็กต์รุ่นยาริสทำท่าว่าจะไม่จบง่าย และน่าจะมีมูลความจริงไม่น้อย เมื่อสื่อในญี่ปุ่นตีพิมพ์ข่าวออกมาอีกระลอกว่า โตโยต้ากำลังเล็งฐานการผลิตในฝรั่งเศส เพื่อใช้ในการผลิตยาริส ไฮบริดออกสู่ตลาด ภายในปีหน้า


       รอยเตอร์รายงานโดยอ้างการตี พิมพ์ข่าวของหนังสือพิมพ์ Mid-Japan Economist ซึ่งยืนยันถึงข่าวนี้ ระบุถึงคำกล่าวของแหล่งข่าวภายในที่ว่าทางโตโยต้ามีความต้องการผลิตรถยนต์ ไฮบริดราคาถูก หรือ Low-Cost Hybrid Car ออกมาขายในตลาดช่วงเดือนเมษายนปีหน้า และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเลือกยาริส หรือวิตซ์ ในญี่ปุ่นเป็นโมเดลในการพัฒนาครั้งนี้
      
       อย่างไรก็ตาม ในช่าวไม่ได้ระบุว่ายาริสหรือวิตซ์ที่นำมาทำเป็นรถยนต์ไฮบริดจะยังเป็น เวอร์ชันเดิมที่ขายอยู่ในตลาด หรือว่าเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดที่คาดว่าน่าจะเปิดตัวในปีหน้าเช่นเดียวกัน ขณะที่ทางโฆษกของโตโยต้า ก็ออกมาปฏิเสธถึงข่าวนี้เช่นเคย พร้อมไม่ขอออกความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัท
      
       ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว ทางหนังสือพิมพ์ของฝรั่งเศส คือ La Tribune ก็เคยเปิดเผยข่าวในลักษณะนี้ออกมา ซึ่งในตอนนั้นมีการระบุว่าโตโยต้าสนใจจะผลิตรถยนต์ไฮบริดขนาดเล็ก โดยมีโรงงานอยู่ที่เมืองวาลองเซียนน์ ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก็คือ ไลน์ผลิตของรถยนต์รุ่นยาริส ก่อนที่ทางโตโยต้าจะกลบกระแสข่าวนี้ ด้วยการออกมาปฏิเสธ แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางโตโยต้าเคยประกาศว่า จะผลิตเวอร์ชันไฮบริดให้กับรถยนต์ทุกสายพันธุ์ที่อยู่ในตลาดภายในปี 2020 โดยจะออกขายคู่กับรุ่นธรรมด เพื่อเป็นอีกทางเลือกก็ตาม
      
       สำหรับข่าวนี้ถือว่ามีส่วนทำให้ตลาดรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ในญี่ปุ่นและ ยุโรปมีความคึกคักขึ้น เพราะในงานปารีส มอเตอร์โชว์ ปีนี้ ทางฮอนด้าก็จะนำแจ๊ซ/ฟิต ไฮบริดออกเปิดตัวในตลาด ก่อนที่จะส่งขายในญี่ปุ่นเดือนตุลาคมนี้พร้อมกับรุ่นปรับโฉมของแจ๊ซ/ฟิต เครื่องยนต์ปกติ
      
       และถ้าข่าวนี้เป็นความจริง ยาริส ไฮบริดจะกลายเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 2 ซึ่งประกอบจากโรงงานในยุโรป และรุ่นแรกที่ขายไปแล้ว คือ โตโยต้า ออริส ไฮบริด หรือ HSD ซึ่งประกอบที่โรงงานในประเทศอังกฤษ

รถยนต์โตโยต้ายาริส รุ่นปรับโฉมใหม่ !!

รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของรถยนต์ยาริส รุ่นปรับโฉม

สีภายนอกของรถยนต์ยาริส รุ่นปรับโฉม

ลักษณะภายนอกและภายในโดยทั่วไปของรถยนต์ยาริสรุ่นปรับโฉม

รุ่นปัจจุบัน	รุ่นปรับโฉม
	1.ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ 2.กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ 3. ล้อแม็คดีไซน์ใหม่
	กันชนหลังดีไซน์ใหม่
	พวงมาลัย พร้อมปุ่ม ควบคุมเครื่องเสียง

	รุ่นปัจจุบัน	รุ่่นปรับโฉม
ไฟหน้า	ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลคเตอร์	ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น
กันชนหน้า และ กระจังหน้า	กันชนหน้า พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่	กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ปรับแต่งด้านล่างให้กว้างขึ้น และกระจังหน้าลายใหม่เพิ่มความเป็นสปอร์ต และชวนให้หลงใหล
กระจกมองข้าง	กระจกมองข้างแบบเดิม	เพิ่มไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ดูหรูหรา และ ช่วยให้รถคันอื่นสามารถเห็นได้ง่ายขึ้น
กันชนหลัง	กันชนหลังแบบเดิม	กันชนหลังดีไซน์ใหม่ ปรับช่วงล่างให้ดูกว้างขึ้น เติมเต็มความเป็นสปอร์ต โดนใจทุกเพศทุกวัย
ไฟหลัง	ไฟหลังแบบเดิม	ไฟหลังดีไซน์ใหม่ ปรับเลนส์ไฟเลี้ยวเป็นสีส้ม และ เลนส์ไฟตัดหมอกหลังใส ดูลงตัว มากขึ้น
ล้อแม็ค	S LTD ล้อแม็ค 16" พร้อมยางขนาด 195/50R16(S LTD) S,G ,E ล้อแม็ค 15" พร้อมยางขนาด 185/60R15(S,G,E)	ล้อแม็ค 15" พร้อมยางขนาด 185/60 R15
ชุดแต่งสเกิร์ตหน้าและหลัง(สำหรับ S LTD ,Sและ E LTD)
พวงมาลัย
ช่องต่อสาย AUX	ไม่มี
ลายผ้าเบาะ

โตโยต้า อีโคคาร์ (TOYOTA Eco Car)

- ม.ค 2553 TOYOTA เผยจะผลิต Eco Car ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ จ.ฉะเชิงเทรา คาดว่า จะใช้ TOYOTA Etios เป็นรถต้นแบบ มีกำลังการผลิต TOYOTA Eco Car 100,000 คัน/ปี เงินลงทุน กว่า 4,642 ล้านบาท

- TOYOTA ได้วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ในโครงการ TOYOTA Eco Car ออกสู่ตลาดใน ปี 2553-2554 แต่ในสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทาง TOYOTA  อาจต้องเลื่อนโครงการ Toyota Eco Car ออกไปก่อน โดยกำหนดการใหม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้แน่นอนในขณะนี้ โดย TOYOTA จะยังไม่เร่งรีบ กับโครงการ Eco Car ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาอยู่ ประกอบกับ TOYOTA มั่นใจว่า Eco Car ยังไม่น่าจะทำให้ตลาดรถยนต์ บีคาร์ เปลี่ยนไป ภายในเร็ววันนี้ อีกทั้ง TOYOTA มีแผนทำตลาดรถ Toyota Hybrid ก่อนทำตลาด Toyota Eco Car

ฟอร์ด เฟียสต้าใหม่

การ ออกแบบคือคุณสมบัติสำคัญของ ฟอร์ด เฟียสต้าใหม่

 กราฟิกที่ชัดเจนและองค์ประกอบด้านการออกแบบภายใต้แนวคิดเคเนอติก ดีไซน์ ที่โดดเด่นของ เฟียสต้าใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในประเทศไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ได้รับ การสะท้อนให้เห็นผ่านองค์ประกอบที่มีเอกลักษณ์ต่างๆ อาทิ ไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยว ฝากระโปรงหน้าที่โค้งมน และรูปทรงของรถที่มีลักษณะเป็นมัดกล้าม เฟียสต้าเป็นรถที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ มีสไตล์ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ลักษณะที่โดดเด่นของการออกแบบภายใต้แนวคิดเคเนอติก ดีไซน์ ประกอบด้วย กระจังหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมูด้านล่างที่มีขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดในการออกแบบเฟียสต้า และยังมีประโยชน์อย่างมากในการดักอากาศเพื่อช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ และระบบปรับอากาศ
พื้นที่เปิดด้านล่างที่มีขนาดใหญ่มักได้รับการเปรียบเทียบกับนักกีฬาชั้น เยี่ยมที่สามารถอ้าปากรับอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันได้ดี เคเนอติก ดีไซน์ แสดงออกถึงพลังแห่งการเคลื่อนไหว ความเป็นนักกีฬา และสมรรถนะในการขับขี่ที่เยี่ยมยอด อันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่มีอยู่ในรถยนต์ทุกรุ่นของฟอร์ด เช่น รถฟอร์ด โฟกัส
  

ไฟหน้าของเฟียสต้าใหม่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่จดจำได้ในทันที ด้วยองค์ประกอบของเคเนอติก ดีไซน์ รูปทรงของดวงไฟคู่หน้าที่โอบล้อมยาวไปถึงด้านข้างและตวัดส่วนปลายต่อเนื่อง ไปยังด้านหลังใกล้จุดเชื่อมต่อกับเสาหน้า (A-Pillars) ที่ลาดเอียงอย่างโฉบเฉี่ยว ไฟหน้าของเฟียสต้าได้รวมไฟสัญญาณต่างๆทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยไฟตัดหมอกดวงกลมบนด้านล่างของกันชนหน้าทั้งสอง ด้าน รูปทรงด้านข้างของเฟียสต้าใหม่ เน้นย้ำความเป็นรถสปอร์ตที่มีสไตล์ แนวหลังคาขนาดใหญ่ทอดยาวอย่างชวนมองจากเสาหน้าไปยังส่วนท้ายของรถ ก่อให้เกิดเส้นกราฟิกที่โดดเด่นพุ่งจากด้านหน้าไปจรดด้านท้ายบนตัวถังด้าน ข้างมอบอารมณ์สปอร์ตให้กับรถในรุ่น 5 ประตู
 กระจกด้านข้างของเฟียสต้าใหม่ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นกราฟิกที่ดู เหมือนกระจกขนาดใหญ่เพียงบานเดียว นับเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักของเคเนอติก ดีไซน์ ที่สื่อสารถึงความโฉบเฉี่ยวของรถ ซึ่งได้รับการเน้นย้ำอีกครั้งด้วยส่วนท้ายของรถที่ "เชิดขึ้น" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดซุ้มล้อที่มีขนาดใหญ่และโดดเด่นสะท้อนบุคลิกที่ มาดมั่นและสมรรถนะในการขับ ขี่บนท้องถนนที่ดีเยี่ยมของเฟียสต้าใหม่ เส้นโค้งของการออกแบบภายใต้แนวคิดเคเนอติก ดีไซน์ ลื่นไหลจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของตัวถังอย่างโฉบเฉี่ยว เชื่อมต่อมุมด้านบนของไฟท้ายเข้ากับสปอยเลอร์ที่มีแผงไฟเบรกเส้นบางประดับ อยู่ด้านบนอย่างมีเอกลักษณ์ รูปทรงของตัวถังได้รับการเพิ่มความโดดเด่นขึ้นอีกขั้นด้วยองค์ประกอบต่างๆ อย่างเช่น ไฟท้ายใหม่ เป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของตัวถัง รวมทั้งกระจกด้านหลังของรถที่ทำมุมเป็นรูปตัววีตรงส่วนท้าย

การออกแบบเฟียสต้าซีดาน
รูปแบบตัวถังของเฟียสต้าซีดานมีความเชื่อมโยงกับรุ่นแฮชแบ็กผ่านทาง เส้น สายที่โฉบเฉี่ยวและพื้นผิวสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเคเนอติก ดีไซน์ กระจกหน้าต่างด้านข้างแบบไร้เสากลางคือ องค์ประกอบทางกราฟิกหลักที่ทันสมัยของเฟียสต้าซีดาน รูปทรงของเสากระจกหลัง (C-Pillars) ที่เร้าอารมณ์ช่วยเพิ่มความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ขณะที่รูปทรงของตัวถังด้านหลัง และฝากระโปรงท้ายได้รับการออกแบบให้สะท้อนความกระฉับกระเฉง แข็งแรงแบบนักกีฬาตามแนวคิดแบบเคเนอติก ดีไซน์ ด้วยพื้นผิวสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ และเส้นสายที่โดดเด่น ซุ้มล้อของรุ่น ซีดานมีความสอดคล้องกับการออกแบบในรุ่นแฮชแบ็กที่สื่อถึงความแข็งแรง และเป็นมัดกล้าม ที่นอกจากจะตอกย้ำความโดดเด่น และความมั่นใจแล้ว ยังขับเน้นความเป็นรถที่มีคุณภาพในระดับพรีเมี่ยมซึ่งพบเห็นได้ไม่บ่อยนักใน ตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
นอกจากความแตกต่างด้านการใช้งานจากรูปทรงของรุ่นแฮชแบ็กแล้ว การออกแบบด้านหลังของรุ่น ซีดานได้รับอิทธิพลจากแนวคิดแบบเคเนอติก ดีไซน์ อย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน
โฉมหน้าของเฟียสต้า ซีดาน มอบความโฉบเฉี่ยว และให้อารมณ์สปอร์ตเช่นเดียวกับรุ่นแฮชแบ็ก โดยมีกระจังหน้าด้านล่างรูปสี่เหลี่ยมคางหมูเป็นจุดเด่นด้านหน้ารถ พร้อมตราสัญลักษณ์ฟอร์ด บลู โอวอล ขนาดใหญ่ประดับอยู่ตรงกลางกระจังหน้าด้านบน
เส้นสายบนฝากระโปรงหน้ารถช่วยเพิ่มรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว ส่วนไฟหน้าที่โดดเด่นได้กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของ เฟียสต้า

 

 สำรวจการออกแบบพื้นที่ภายใน ด้วยเคเนอติก ดีไซน์
รูปลักษณ์ของแผงหน้าปัดของเฟียสต้าที่มีความโค้งมนเย้ายวน ใจ และพื้นผิวสัมผัสขนาดใหญ่ ทำให้การออกแบบแผงควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ แบบเดิมดูล้าสมัยในทันที
การออกแบบภายในของเฟียสต้าใหม่ประกอบด้วยพื้นผิวสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ และรูปทรงที่โค้งมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผงหน้าปัด และแผงปุ่มควบคุมที่ประตู องค์ประกอบด้านการออกแบบภายในล้วนสะท้อนแนวคิดเคเนอติก ดีไซน์ เช่นเดียวกับตัวถังภายนอก
     

 แผงควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ คือหัวใจของการออกแบบภายในห้องโดยสาร โดยพื้นที่ตรงกลางของคอนโซลได้รับการออกแบบให้มีความโค้งมนตามรูปทรงที่สวย งามของแผงหน้าปัด และยกขึ้นโอบรับจอหน้าระบบแอลซีดีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนแผงคอนโซล เฟียสต้ามาพร้อมกับยนตรกรรมใหม่ล่าสุดที่เชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และเครื่อง จักร (Human Machine Interface – HMI) ซึ่งเพียงเทคโนโลยีนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเฟียสต้าที่จะวางจำหน่ายในประเทศ ไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เป็นรถที่มีความทันสมัยอย่างเหนือชั้น

สำหรับองค์ประกอบหลักในการออกแบบแผงหน้าปัด คือการแยกส่วนประกอบดั้งเดิมของอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงต่างๆ ออกจากกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ ปุ่มควบคุมต่างๆ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้นักออกแบบสามารถจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ใหม่ได้อย่างอิสระและสะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด
การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ และสวิตช์ควบคุมต่างๆ ตอบสนองต่อสัญชาติญาณในการใช้งานและมีความคล้ายคลึงกับอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ ทันสมัยรุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยแนวคิดดังกล่าว แผงควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเฟียสต้าจึงให้ความรู้สึกแตกต่างจากที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน และตอบสนองต่อการใช้งานของลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในประเทศไทย ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คือตัวอย่างที่สะท้อนถึงแนวคิดเบื้องหลังการทำงานของทีมนักออกแบบและวิศวกร ของฟอร์ดที่มุ่งสร้างสรรค์พื้นที่ภายในห้องโดยสารของเฟียสต้าใหม่ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในระดับสูงกว่ามาตรฐานรถยนต์ขนาดเล็กทั่วไป
ระบบปรับอากาศของเฟียต้า ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนติดตั้งอยู่กลางแผงควบคุม อุปกรณ์ พร้อมด้วยปุ่มควบคุมแบบหมุนที่มีขนาดใหญ่ ใช้งานสะดวก และติดตั้งอยู่ในระยะที่ผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าสามารถเอื้อมถึงได้อย่าง ง่ายดาย
แผงหน้าปัดของเฟียสต้าใหม่ได้รับการออกแบบให้ลื่นไหลต่อเนื่องไปยัง คอนโซล กลาง ทำให้เกิดเป็นช่องสำหรับเก็บของ รวมถึงถาดสำหรับวางโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเครื่องเล่นเอ็มพี 3 บริเวณด้านข้างเบรกมือ พร้อมจุดเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเบ้าปลั๊ก 12 โวลต์ ที่จัดวางอยู่ใกล้มือ